นุงนังลอตเตอรี่ 12 ล้าน ! หนุ่มทำหายชี้พิรุธหลายอย่าง ตร.จี้ 1 สัปดาห์รู้ผล

คดีลอตเตอรี่เจ้าปัญหา 12 ล้านที่บุรีรัมย์ยังวุ่น ต่างฝ่ายต่างงัดหลักฐาน แต่หนุ่มที่แจ้งความถูกขโมยลอตเตอรี่ยังมั่นใจพยานหลักฐานของตัวเอง แม้สองสามีภรรยาชาวร้อยเอ็ดที่นำสลากไปขึ้นเงินจะโชว์รูปถ่ายลอตเตอรี่ที่อ้างถูกรางวัล 18 ล้านมายืนยัน ตร. แต่ส่อพิรุธหลายอย่าง ด้าน จนท.ขอเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์รู้ผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ย. 60) จากกรณีที่ นายพันธุ์ศักดิ์  อายุ 31 ปี หนุ่มชาว ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ถูกขโมยลอตเตอรี่ที่ตนเองถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ส.ค. 60 หมายเลข 715431 จำนวน 2 คู่ เป็นเงิน 12 ล้านบาท

กระทั่งต่อมาทราบว่ามีคนนำลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวไปขึ้นเงินแล้วเมื่อวันที่ 23 – 24 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นสองสามีภรรยาชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ยังส่อเค้าวุ่น เมื่อต่างฝ่ายต่างงัดหลักฐานออกมายืนยันว่าตัวเองเป็นคนถูกลอตเตอรี่ชุดดังกล่าว

โดยเฉพาะเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (28 ก.ย. 60) ที่นายวิทยา และนางขวัญศิริ สองสามีภรรยาชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีชื่อว่าเป็นบุคคลที่นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงิน ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง พร้อมทั้งมีการนำรูปถ่ายลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ส.ค. 60 มาเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า ตนเองเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ส.ค. 60 หมายเลข 715431 และถูกจำนวน 3 คู่เป็นเงิน 18 ล้านบาท ไม่ใช่ 2 คู่ 12 ล้านบาท

อีกทั้งพ่อค้าที่ขายลอตเตอรี่ยังออกมายืนยันว่า ได้ขายลอตเตอรี่ให้กับทั้ง 2 คน แต่จำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไรไป ยิ่งสร้างความสับสนให้กับสังคมและผู้ที่ติดตามข่าวสารดังกล่าวว่าใครพูดจริง ใครโกหกกันแน่

ขณะที่ นายพันธุ์ศักดิ์ หนุ่มว่าที่เศรษฐีที่แจ้งความว่าถูกขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้าน พร้อมครอบครัว ก็ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐาน และการทำหน้าที่ของตำรวจ ถึงแม้สองสามีภรรยาจะนำรูปถ่ายที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 ชุดเดียวกันมายืนยันกับตำรวจก็ตาม แต่ยังเชื่อว่าความจริงก็คือความจริง

ประกอบกับพบความผิดปกติและพิรุธหลายอย่าง อาทิ รูปถ่ายลอตเตอรี่ที่นำมายืนยัน ทำไมจึงถ่ายเก็บไว้แค่ 2 คู่ คือชุดที่ 31, 32 และชุดที่ 57, 58  แล้วทำไมอีกคู่จึงไม่ถ่ายไว้เป็นหลักฐาน แต่ชุดที่ตนเองแจ้งว่าถูกขโมยเป็นชุดที่ 31, 32 และชุดที่ 37, 38

ประกอบกับหลักฐานจากกองสลากฯ ก็ระบุเพียงว่ามีการไปขึ้นเงิน 2 คู่ แล้วอีก 1 คู่ใครไปขึ้นเงิน จึงอยากให้มีการตรวจสอบกับทางกองสลากฯ อีกครั้ง ว่าลอตเตอรี่ชุดที่ 57, 58 ที่สองสามีภรรยาระบุว่าถูกรางวัลที่ 1 นั้น ได้ไปขึ้นเงินจริงหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้นที่ทำให้รู้สึกคาใจคือ ทำไมสามีภรรยาจึงเดินทางไปขึ้นเงินที่กองสลากคนละวัน และที่สำคัญหากถูกลอตเตอรี่ถึง 3 คู่ ซึ่งมียอดเงินรางวัลสูงถึง 18 ล้านบาท ทำไมจึงไม่ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งผิดวิสัยของคนที่ถูกรางวัลยอดเงินจำนวนมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดทำคดีให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว

ขณะที่ นายสิทธิ์พิทักษ์ ชาวบ้าน ต.เมืองยาง อ.ชำนิ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ และครอบครัวเป็นการส่วนตัว และไม่ได้รู้จักกับสองสามีภรรยาที่นำสลากไปขึ้นเงิน แต่ที่มาเป็นพยานให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ เนื่องจากวันที่ตนเองไปทำธุระที่ สภ.นางรอง แล้วบังเอิญเจอกับนายพันธุ์ศักดิ์ กับครอบครัว และคนขายลอตเตอรี่ ที่มาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพัก

จึงสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งได้พูดคุยกับคนขาย ซึ่งก็ยังยืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์ ซื้อลอตเตอรี่กับเขาแล้วถูกรางวัลที่ 1 จริง แต่หลังจากนั้นได้ติดตามข่าวพบว่ามีสองสามีเป็นผู้ไปขึ้นเงินที่กองสลาก และพ่อค้าที่ขายก็กลับคำพูดอ้างจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนซื้อและถูกรางวัลกันแน่ ซึ่งตนเห็นว่าน่าจะมีเงื่อนงำและความผิดปกติ

จึงมาแสดงตัวเป็นพยานว่าคนขายเคยมาให้การยืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์ ถูกลอตเตอรี่ เพราะมองว่าไม่มีความเป็นธรรม

ด้าน พนักงานสอบสวนก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ผู้ที่ถูกพาดพิงถึง และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนเสนอผู้บังคับบัญชา และส่งอัยการพิจารณาตามกระบวนการขั้นตอนได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์

Comments

comments