รองผบ.ตร.แถลงข่าวจับยกแก๊งแขกขาวโคลัมเบีย เช่ารถเก๋งตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านหรู ได้ของกลางจำนวนมากมูลค่าหลายสิบล้าน อดีตผอ.ฝ่ายโรงงานยาสูบ 5 เจอยกตู้เซฟทั้งใบสูญทรัพย์สินกว่า 2 ล้านบาท พระเครื่องรุ่นเก่า ราคาแพงนับสิบ

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสะเวช ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.นนทบุรี พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภาค 1 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี ผกก. สส. กก.1 บช.ภาค1 พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.กรณ์เสฎฐ์ วงศ์สีชิณ ผกก.สภ.บางศรีเมือง และตำรวจสืบสวน ภ.1 สืบสวน ภ.จว.นนทบุรี สืบสวน สภ.บางศรีเมือง

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว แก๊งแขกขาวชาวโคลัมเบีย ที่ขับรถยนต์ตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านหรู ประกอบด้วย 1.นายอัครเดช หรือฝรั่ง มานุจำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/23 หมู่ 13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 2.นายเอสโกบาร์ อาลอนโซ จอนห์น ไจโร อายุ 48 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย 3.นายเนสเตอร์ ฟาบริซิโอ คูเออร์โว่ เมซา อายุ 46 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย 4.นายโคเวอร์ คาร์ดีเนส โจเจนพู อายุ 35 ปี สัญชาติโคลัมเบีย 5.นายคูเออโว คาดีนัส ไอเชียอัส อายุ 28 ปี สัญชาติ โคลัมเบีย และ 6.นายฟาบิโอเอนเดรส อายุ 35 ปี สัญชาติโคลัมเบีย

ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 292, 293, 294 ลงวันที่ 17 มิ.ย.60 และ เลขที่ 295, 296, 297 ลงวันที่ 18 มิ.ย.60 พร้อมของกลาง เครื่องมือที่ใช้ในการก่อเหตุ, รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส จำนวน 2 คัน, แผ่นป้ายทะเบียน, โทรศัพท์มือถือ, นาฬิกาข้อมือ, เครื่องประดับ, พระเครื่อง, ปากกา รวมของกลางทั้งหมด 215 รายการ มูลค่านับสิบล้านบาท
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับ คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สินนั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือ พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร

พล.ต.อ.ศรีวรขาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค.60 เวลากลางคืน มีกลุ่มคนร้ายใช้ยานพาหนะยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ขับเข้ามาลักทรัพย์ในบ้านพักภายในหมู่บ้าน เพชรลดา เลขที่ 111/333 ซึ่งเป็นบ้านของนายวรวัฒน์ พัฒนชาคร อายุ 61 ปี อดีตผู้อำนวยการฝ่ายโรงงานยาสูบ 5 ขณะเจ้าของบ้านไปต่างจังหวัด ก่อนเข้าไปยกตู้เซฟขนาดใหญ่ ภายในมีเงินสด ทองรูปพรรณ หนัก 20 บาท พระเครื่องรุ่นเก่านับสิบองค์ นาฬิกาหรูอีกหลายเรือน มูลค่าทรัพย์สินกว่า 2 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 พ.ค.60 คนร้ายแก๊งนี้ยังเข้าไปลักทรัพย์ภายในหมู่บ้านมณียา ซอย 2 และมณียา ซอย 4 ในเขตตำบลบางรักน้อย อ.เมือง ก่อนกวาดทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านอยู่ในเขตพื้นที่ สภ.บางศรีเมือง จน พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.นนทบุรี ต้องสั่งการให้ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกับ พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง ชุดสืบสวน ภาค 1 ทำการการสืบสวนจนทราบ ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกันโดยมีการเปลี่ยนใช้รถยนต์คันอื่นและติดป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งรถที่ก่อเหตุเช่ามาจากคาเร้นท์แห่งหนึ่งในกรุงเทพ โดยแก๊งค์แขกขาวชาวโคลัมเบียแก๊งนี้ออกก่อเหตุในเขต กทม.และปริมณฑล ในช่วงวันที่ 30 พ.ค.-15 มิ.ย.60 รวมกว่า 10 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปกว่า 215 รายการ

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มแก๊งชาวต่างชาติ สัญชาติโคลัมเบีย เคยมีประวัติต้องโทษในลักษณะแบบเดียวกันและภายหลังพ้นโทษได้ถูกผลักดันออกนอกประเทศและลักลอบหนีเข้าเมืองมาก่อเหตุในประเทศไทยดังกล่าว

โดยมีนายอัครเดช ลูกครึ่งไทย-สวิซเซอร์แลนด์ ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการก่อเหตุ จึงได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานและขออนุมัติออกหมายจับดังกล่าว จากนั้นในวันที่ 18 มิ.ย.60 จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดโดยนายอัครเดช ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เมื่อตรวจสอบพบว่านายอัครเดช เคยมีประวัติถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ พื้นที่ สน.โชคชัย และนายเอสโกบาร์ อาลอนโซ่ จอห์น ไจโร เคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์ พื้นที่ สน.บางแก้ว และได้รู้จักกันในเรือนจำระหว่างต้องโทษ

เมื่อพ้นโทษออกมาจึงได้ทำการรวมกลุ่มและก่อเหตุในลักษณะเดิม ฝากแจ้งเตือนถึงผู้ประกอบการรถเช่าที่ให้ชาวต่างชาติ เช่ารถไปใช้ให้ตรวจสอบประวัติการขอเช่ารถทุกรายให้ละเอียด หากพบว่าผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบทันที ส่วนผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกลักทรัพย์และสงสัยว่าจะเป็นทรัพย์สินของตนเอง ให้ติดต่อขอตรวจสอบทรัพย์สินของกลางที่ยึดทาได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ในวันและเวลาราชการ